การขอให้ศาลฎีการอการลงโทษเป็นปัญหาข้อเท็จจริงไม่ใช่ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย

  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 915/2538 ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยฎีกาขอให้รอ การลงโทษ เป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ตามศาลชั้นต้น ฎีกาของจำเลย จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยได้หยิบยกข้อเท็จจริงที่ มิได้ปรากฏอยู่ในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ขึ้นมาเพื่อประกอบ ข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และ 78 แต่เนื่องจาก ข้อเท็จจริงทั้งหมดตามฎีกาเพิ่งปรากฏในชั้นฎีกา และจำเลย ได้ถูกจำคุกมาจวนครบกำหนดกักขังแล้ว ซึ่งโทษจำคุกจำเลย ได้รับรุนแรงกว่าการกักขัง จำเลยจึงได้รับโทษรุนแรงกว่า การกระทำผิดของจำเลยแล้ว ขอศาลได้โปรดพิจารณาการกระทำ ของจำเลยประกอบเข้ากับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56,78 และมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43,157 ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 อันเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 1 เดือ...

หลักฐานในการฟ้องหย่ามีอะไรบ้าง

 


หลักฐานในการฟ้องหย่าในประเทศไทยขึ้นอยู่กับเหตุที่นำมาฟ้องหย่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 ซึ่งกำหนดเหตุในการหย่าหลายประการ เช่น การมีชู้ การทำร้ายร่างกาย การละทิ้งหน้าที่ และอื่น ๆ หลักฐานที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไปตามเหตุที่อ้าง แต่หลักฐานทั่วไปที่ใช้ได้มีดังนี้:

1. เอกสารส่วนตัว

  • สำเนาทะเบียนสมรส (แสดงถึงสถานะการสมรส)
  • บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
  • สูติบัตรของบุตร (ถ้ามี)

2. หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเหตุในการหย่า

  • กรณีการมีชู้
    • ภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอที่แสดงถึงการกระทำผิด (เช่น อยู่ด้วยกันในที่ลับหรือสถานการณ์เชิงชู้สาว)
    • หลักฐานการแชท ข้อความ หรือการสนทนา
    • พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์
  • กรณีการทำร้ายร่างกาย
    • รายงานการตรวจร่างกายจากแพทย์
    • บันทึกประจำวันของตำรวจ
    • ภาพถ่ายแสดงบาดแผล
    • คำให้การจากพยาน
  • กรณีการละทิ้งหน้าที่
    • หลักฐานแสดงการไม่ส่งเสียเลี้ยงดู เช่น สลิปเงินเดือนหรือเอกสารทางการเงิน
    • หลักฐานการไม่อยู่บ้านหรือการทิ้งครอบครัว
  • กรณีความไม่สมประกอบหรือเจ็บป่วยจิตใจ
    • รายงานการตรวจสุขภาพหรือเอกสารจากแพทย์
    • พยานบุคคลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

3. พยานบุคคล

  • บุคคลที่สามารถยืนยันเหตุผลที่นำมาฟ้องหย่า เช่น เพื่อนบ้าน ญาติ หรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์

4. เอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติม

  • หลักฐานทางการเงิน เช่น บัญชีธนาคาร หลักฐานการกู้ยืมเงิน
  • หลักฐานการแบ่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน (กรณีฟ้องแบ่งสินสมรส)

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • ควรปรึกษาทนายความเพื่อช่วยรวบรวมหลักฐานที่เหมาะสม
  • หากไม่มีหลักฐานเพียงพอ อาจต้องใช้การสอบพยานในศาลเพื่อเสริมเหตุในการหย่า

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในกรณีเฉพาะ สามารถบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้!

ทนายป้องปราบเพชรบุรี
รับทำคดีอาญา/ คดียาเสพติด/คดีแพ่ง/คดีปกครอง/ทั่วราชอาณาจักร
ติดต่อ Line
📌โทรศัพท์ 08-8450-7320
✅เส้นทางที่แชร์✅
จาก 12.9301644, 99.9138573 ไป สำนักงานทนายความป้องปราบเพชรบุรี ถ.เพชรเกษม ตำบล ต้นมะม่วง อำเภอเมืองเพชรบุรี เพชรบุรี 76000 ผ่าน ถนนหมายเลข 4

18 นาที (22 กม.)
ดูเส้นทางดีที่สุดสำหรับสภาพการจราจรปัจจุบันที่ https://maps.app.goo.gl/8uKAWiByoopnryto7?g_st=ac


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กรณีบิดาต้องการจดทะเบียนรับรองบุตรทำอย่างไร